ให้โดยเสน่หา 71 ล้านบาท หมิ่นประมาทถอนคืนการให้ได้
# ให้โดยเสน่หาทำผิดอาญาถอนคืนการให้ได้
การให้โดยเสน่หา คือการโอนทรัพย์สินของผู้ให้ไปให้อีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น ซึ่งจะสมบูรณ์ต่อเมื่อมีการส่งมอบทรัพย์สินที่ให้ การที่บิดาให้โดยเสน่หาแก่บุตรแต่บุตรประพฤติเนรคุณต่อบิดาซึ่งเป็นทั้งผู้ให้กำเนิดและผู้ให้การอุปการะคุณโดยพูดคำด่าทอและพูดดูถูกดูแคลนว่าบิดาเป็นคนแก่ที่มีสติหลง ๆ ลืม ๆ ต่อหน้าผู้อื่นว่า ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน นอกจากจะเป็นการหมิ่นประมาทบิดาที่ถอนคืนการให้ได้แล้ว บุตรนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นผู้อกตัญญูอีกด้วย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 531 อันผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น ท่านว่าอาจจะรียกได้แต่เพียงในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้
(2) ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง
เรื่องจริงอิงฎีกา/คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6428/2557
.........การที่บุตรเรียกบิดาว่า “ ไอ้แก่ ” ก็เป็นคำด่าแล้ว ทั้งจำเลยยังพูดว่า “ ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน ” ยิ่งถือว่าเป็นคำด่าทอและพูดดูถูกดูแคลนว่าโจทก์เป็นคนแก่ที่มีสติหลง ๆ ลืม ๆ คำพูดดังกล่าวจึงถือว่าเป็นคำที่ด่าว่าโจทก์ทำให้โจทก์รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก โจทก์ได้เงินค่าเวนคืนที่ดินจากทางราชการและนำเงินจำนวน 7,000,000 บาท ใส่บัญชีชื่อจำเลยเพียงคนเดียว โจทก์จึงมาทวงถามเงินจากจำเลย ทำให้จำเลยไม่พอใจและพูดด่าทอโจทก์ ว่า “ ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน ” ทำให้โจทก์เสียใจและโกรธจำเลยที่พูดด่าโจทก์ โจทก์จึงไปแจ้งความดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหายักยอกทรัพย์เงินจำนวน 7,000,000 บาท เมื่อโจทก์ไปพูดทวงเงินคืน จำเลยได้พูดด่าทอว่าโจทก์ต่อหน้าผู้อื่นว่า ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน ” เป็นการด่าว่าโจทก์ผู้เป็นบิดาโดยไม่ให้ความเคารพนับถือยำเกรง เป็นถ้อยคำที่หยาบคายแสดงถึงการเหยียดหยามไม่นับถือว่าโจทก์เป็นบิดา เพราะใช้คำว่า “ ไอ้แก่ ” ถือได้ว่าเป็นถ้อยคำที่หมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิถอนคืนการให้เพราะเหตุประพฤติเนรคุณ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2)