เช็คเด้งแต่ไม่มีความผิด
# ออกเช็คเด้งแล้วไม่มีความผิดอย่างนี้ก็มีด้วย
เช็ค คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่า ผู้รับเงิน ซึ่งในการประกอบธุรกิจการชำระหนี้ด้วยเช็คเป็นวิธีการที่สะดวกและปลอดภัย แต่การออกเช็คนั้นจะต้องออกเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วยจึงจะได้รับชำระหนี้
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534
มาตรา 4 ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
เรื่องจริงอิงฎีกา/ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677/2557
.........การกระทำใดจะมีมูลความผิดตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวจะต้องพิจารณาได้ความว่าเป็นการออกเช็คชำระหนี้ที่มีอยู่ก่อนและหนี้นั้นจะต้องบังคับได้ตามกฎหมาย เช่น การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคหนึ่ง และได้มีการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ดังกล่าวนั้น จำเลยที่ 1 ได้กู้ยืมเงินโจทก์ไปโดยไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ ต่อมาจำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาททั้งสองฉบับมอบให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว และได้ทำบันทึกการรับสภาพหนี้ว่าจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนสั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองฉบับเพื่อชำระหนี้เงินที่กู้ยืมดังกล่าวจากโจทก์ ซึ่งโจทก์มีเฉพาะบันทึกการรับสภาพหนี้ดังกล่าวฉบับเดียวที่อ้างเป็นหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 ได้กู้ยืมเงินจากโจทก์ไป บันทึกการรับสภาพหนี้ได้กระทำขึ้นภายหลังที่ออกเช็คพิพาททั้งสองฉบับแล้วแม้จะได้กระทำในวันเดียวกันก็ตามก็ถือได้ว่าขณะที่จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนออกเช็คและส่งมอบเช็คพิพาทให้แก่โจทก์นั้น แม้จะรับฟังว่าจำเลยที่ 1 เป็นหนี้กู้ยืมเงินโจทก์อยู่จริง แต่หนี้นั้นก็ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงขาดองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคหนึ่ง